ภาพแสดงการปวดกล้ามเนื้อสะบักข้างซ้าย |
ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) คือ อะไร?
- ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome) หรือ ไมโอฟาสเชียลเพนซินโดรม (Myofascial pain syndrome) คือ กลุ่มโรคของอาการปวดกล้ามเนื้อ และอาการทางระบบประสาทอัตโนมัติที่เป็นผลมาจากจุดกระตุ้น (Trigger point) ที่อยู่ในกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืด
- พบได้บ่อย พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อายุประมาณ 30-60 ปี
จุดกระตุ้น หรือ Trigger point คืออะไร?
- เป็นจุดกดเจ็บบนลำกล้ามเนื้อ ที่เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อซ้ำๆที่ตำแหน่งเดิม จุดนี้บนลำกล้ามเนื้อถูกกระตุ้นให้หดเกร็งซ้ำๆตลอดเวลา สังเกตได้ว่าคลำเป็นก้อนแข็งๆ เรียกว่า ทอทแบนด์ (taut band) ถ้าขยายส่วนนี้ออกมาก็จะเห็นใยกล้ามเนื้อบางจุดหดเกร็งเป็นปมตลอดเวลา ซึ่ง taut band นี้จะเป็นจุดที่ถูกกดสามารถกระจายความเจ็บไปเป็นบริเวณกว้างได้
สาเหตุของออฟฟิศซินโดรม คือ อะไร?
- อะไรก็ตามทำให้มีการเกร็งกล้ามเนื้อซ้ำๆเป็นเวลานานๆ เช่น คนที่ทำงานอยู่ท่าเดิมนานๆ หรือเคยชินกับท่าทางบางอย่างที่เกร็งกล้ามเนื้อมัดเดิมๆ ต่อเนื่อง มีโอกาสกระตุ้นให้เป็นออฟฟิศซินโดรมได้
- จะมีบริเวณที่เจ็บบริเวณกว้างตามตำแหน่งของกล้ามเนื้อมัดนั้นๆ ซึ่งจะมีจุดกระตุ้นหนึ่งแห่งที่เป็นจุดที่กดแล้วจะปวดร้าวไปบริเวณกว้าง และอาจจะมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เหงื่อออก ผิวหนังเย็นซีด น้ำตาไหล คัดจมูก ขนลุก เวียนศีรษะ ตาพร่ามัว หูอื้อ
- ตัวอย่างตำแหน่งออฟฟิศซินโดรมจุดกำเนิดที่คอ แล้วปวดร้าวไปยังศีรษะ ดังรูป
- ตัวอย่าง trigger point บริเวณสะบักและต้นแขน
Trigger point บริเวณสะบักและต้นแขน บริเวณกากบาทสีดำคือจุดกระตุ้นความเจ็บ (trigger points) บริเวณพ่นสีแดง แสดงบริเวณมักจะมีอาการปวดร้าวไปถึง บริเวณจุดสีแดงคือบริเวณที่ปวดร้าวที่พบน้อยกว่า
ภาพจุดกระตุ้นการเจ็บ(trigger points)ที่พบบ่อย |
วิธีรักษา ออฟฟิสซินโดรม
หลักการของทุกวิธีคือ ลดปวด คลายล็อคจุดกระตุ้น (trigger point) และยืดกล้ามเนื้อ ทุกวิธีผู้ป่วยต้องกลับไปยืดกล้ามเนื้อทุกวันเหมือนกันหมด (เรียงลำดับจากค่ารักษาน้อยไปถึงมาก)
- รับประทานยาแก้ปวด รับประทานทุกวันแล้วยืดกล้ามเนื้อ เพื่อให้จุดกระตุ้นที่หดตัวคลายตัววันละนิดวันละหน่อย จะเริ่มวิธีนี้ก่อนก็ได้ แต่เราไม่สามารถรับประทานยาติดต่อกันนานกว่าหนึ่งเดือนได้อาจเป็นอันตรายต่อไตหรือตับ ดังนั้นหากยังไม่หายในหนึ่งเดือน ควรมองหาวิธีต่อไป (ค่าใช้จ่าย 100-500บาท)
- การสปรย์ยาชา ตามด้วยยืดกล้ามเนื้อ แต่ยาชามีฤทธิ์ลดปวดนานเพียงสิบนาที จึงต้องสเปรย์บ่อย การหายต้องขึ้นกับการยืดกล้ามเนื้อ (ค่าใช้จ่าย 400-600 บาท)
- การปักเข็มเข้า trigger point เรียกว่า Dry needling โดยแพทย์ปักเข็มเข้าจุดกระตุ้น ผู้ป่วยจะเจ็บจากเข็มแทง หากเข็มเข้าไปตรงจุดกระตุ้น เข็มจะทำให้จุดกระตุ้นในกล้ามเนื้อคลายตัวได้เลย แล้วให้ผู้ป่วยออกกำลังขยับกล้ามเนื้อส่วนนั้นสักพัก ผู้ป่วยจะเจ็บจากรอยเข็มแทงอยู่สักสามสี่วันอาการปวดจะหายไป (1,500-2,000 บาท)
- การฉีดยาชาเข้า trigger point โดยแพทย์ฉีดยาชาหรือผสมยาแก้อักเสบฉีดเข้าจุดกระตุ้น แล้วบริหารกล้ามเนื้อ วิธีนี้ถ้าฉีดโดนตรงจุดกระตุ้นแล้ว อีกสามนาทีผู้ป่วยจะหายปวดร้าวทันที แสดงว่าเป็นโรคออฟฟิสซินโดรม จริง ถือเป็นการวินิจฉัยไปในตัว หลังฉีดก็ให้ผู้ป่วยบริหารกล้ามเนื้อแต่พอดี ไม่ต้องถึงกับยืดกล้ามเนื้อ ผู้ป่วยปวดจากรอยแทงเข็มเล็กน้อยอยู่สามสี่วันก็หาย (1,500-2,000 บาท)
การฉีดยาเข้า จุดหดเกร็งของกล้ามเนื้อ การใช้อัลตร้าซาวด์ให้เห็นภาพกล้ามเนื้อที่จะฉีดยาช่วยเพิ่มความแม่นยำและลดโอกาสเกิดภาวาแทรกซ้อน - การนวดกดจุดและยืดกล้ามเนื้อ จะทำในรายที่กลัวเข็ม ต้องนัดนวดหลายครั้ง อาการปวดค่อยๆลดลงทีละน้อย การหายหรือไม่ก็ต้องขึ้นกับหลายปัจจัย เช่น ตัวผู้ป่วยเอง ตัวผู้ทำการรักษา (2,800-3,600 บาท)
- กายภาพบำบัดและยืดกล้ามเนื้อ จะใช้เครื่องมือบำบัดอาการปวดหลายชนิด จึงลงทุนสูง ต้องนัดทำหลายๆครั้ง อาการปวดจะค่อยๆลดลงทีละน้อย (4,000-10,000 บาท)
ทุกวิธีสามารถรักษาอาการปวดได้ผลทั้งหมด
ถ้าอยากหายปวดเร็ว ควรเลือกการปักเข็มหรือการฉีดยาเข้าจุดกระตุ้น ยิ่งปัจจุบันที่เครื่องอัลตร้าซาวด์ช่วยนำทางให้เห็นแนวและตำแหน่งของเข็มแล้ว ยิ่งฉีดได้แม่นยำและหลีกเลี่ยงอวัยวะที่สำคัญได้ ยิ่งเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ป่วยขึ้น แถมเพิ่มโอกาสหายภายในครั้งเดียวมากขึ้น (สำหรับ Dr. Rattawach จะถนัดวิธีนี้)
ถ้าอยากหายปวดเร็ว ควรเลือกการปักเข็มหรือการฉีดยาเข้าจุดกระตุ้น ยิ่งปัจจุบันที่เครื่องอัลตร้าซาวด์ช่วยนำทางให้เห็นแนวและตำแหน่งของเข็มแล้ว ยิ่งฉีดได้แม่นยำและหลีกเลี่ยงอวัยวะที่สำคัญได้ ยิ่งเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ป่วยขึ้น แถมเพิ่มโอกาสหายภายในครั้งเดียวมากขึ้น (สำหรับ Dr. Rattawach จะถนัดวิธีนี้)
ถ้ากลัวเข็ม ควรเลือกการนวดหรือกายภาพบำบัดซึ่งจะลดปวดอย่างช้าๆและยาวนานจึงมีค่ารักษาสูง
ถ้าต้องการวิธีประหยัด จะเลือกสเปรย์ยาหรือรับประทานยาก็ได้ แต่จะต้องขยันยืดกล้ามเนื้อบ่อยๆ
ถ้าต้องการวิธีประหยัด จะเลือกสเปรย์ยาหรือรับประทานยาก็ได้ แต่จะต้องขยันยืดกล้ามเนื้อบ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม หากยังไม่แน่ใจว่าสาเหตุการปวดมาจากโรคอะไร ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนจะเลือกการรักษาจึงจะปลอดภัยสำหรับคุณ
ติดต่อ หมอรัฐวัชร์ ได้ที่ บีอาร์เอ็กซ์จีโพลีคลินิก โทร. 033060399
ตามแผนที่นี้ https://1th.me/YdWGp
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น