คือภาวะไตเสื่อมการทำงานจนไม่สามารถกรองของเสียออกจากเลือดในร่างกายได้ ทำให้ของเสียในเลือดเพิ่มจำนวนมากจนร่างกายเสียสมดุลการทำงานไป
ลำดับขั้นการรักษา?
เมื่อไตเสื่อมการทำงานมากขึ้นเรือยๆ จากการรักษาประคับประคอง ก็ต้องเปลี่ยนเป็นการล้างไต ซึ่งนิยมล้างไตด้วยการฟอกเลือดโดยเครื่องไตเทียม (hemodialysis) ก่อนแต่หากใช้วิธีนี้ไม่ได้ แพทย์จะพิจารณาการฟอกไตด้วยการล้างไตผ่านช่องท้อง (peritoneal dialysis) ระหว่างที่ล้างไตอยู่ หากมีไตบริจาคที่เข้ากันได้กับผู้ป่วย และภาวะผู้ป่วยเหมาะสมที่จะปลูกถ่ายไตได้ ก็ควรทำการผ่าตัดปลูกถ่ายไต เพื่อยืดอายุผู้ป่วยและให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การล้างไตด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis)
เป็นการรักษาโดยการนำเลือดออกจากหลอดเลือดเข้าสู่เครื่องกรองเลือดแยกเอาของเสีย เกลือแร่ และน้ำที่เกินออกจากเลือด เลือดที่กรองจากเครื่องไตเทียมกลับเข้าสู่ร่างกายผู้ป่วย ดังนั้นจะต้องมีจุดนำเลือดออกและทางเข้า การฟอกเลือดต้องทำที่โรงพยาบาลสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งๆละ 2-5 ชั่วโมงซึ่งจำกัดวิถีการดำเนินชีวิตประจำวันผู้ป่วยอยู่ไม่น้อย
ภาพแสดงการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม |
เราสร้างทางเข้า-ออกเลือดจากหลอดเลือดดำ (venous access) ได้ทางไหนบ้าง?
- การต่อหลอดเลือดแดงเข้ากับหลอดเลือดดำ (arteriovenous fistula) โดยมากแพทย์จะ ผ่าตัดเชื่อมต่อหลอดเลือดแดงเข้ากับหลอดเลือดดำบริเวณท่อนแขนเหนือข้อมือ ดังรูปด้านล่าง โดยทั่วไปต้องรอให้รอยต่อนี้เชื่อมสนิทเป็นระยะเวลา 2 ถึง 4 เดือน และหลอดเลือดดำหลังรอยต่อโป่งขยายขึ้นเพื่อให้ปริมาณเลือดไหลเข้าเครื่องไตเที่ยมมากและเร็วพอที่จะฟอกของเสียหมดใน 2-4 ชั่วโมง
การใช้งานต่อกับเครื่องไตเทียมต้องมีสายสองเส้น (แทงเข็มสองจุดแล้วต่อกับสายส่งเลือดเข้าเครื่องและสายจากเครื่องไตเที่ยมส่งเลือดกลับเข้าหลอดเลือดดำ) - การเชื่อมต่อหลอดเลือดแดงเข้ากับหลอดเลือดดำด้วยท่อยางสังเคราะห์ (arteriovenous graft) รอเวลาให้แผลหาย 2 สัปดาห์ก่อนจะใช้การล้างไตได้ ใช้กรณีที่วิธีที่หนึ่งทำไม่ได้เนื่องหลอดเลือดขนาดเล็กเกินไปที่จะต่อโดยตรง
แผนภาพการใส่หลอดเลือดเทียมต่อระหว่างหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ เวลาล้างไตจะแทงเข็มสองอันสำหรับเป็นขาออก และขาเข้าของเลือด - ฝังหลอดสวนใว้ในหลอดเลือดดำใหญ่ (Central venous catheter) โดยทั่วไปแพทย์จะฝังหลอดสวนที่หลอดเลือดดำใหญ่บริเวณคอ จะใช้กรณี นี้ก็ต่อเมื่อมีข้อจำกัดในการใช้วิธีที่ 1 และ 2
ควรจะทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่และน้ำอุ่นทุกวันและก่อนเวลาล้างไต
สิ่งที่ไม่ควรทำได้แก่:
- เกาหรือดึงบริเวณนี้
- สวมเสื้อรัดหรือเครืองประดับรัดบริเวณนี้
- นอนทับแขนบริเวณนี้
- เจาะเลือดหรือวัดความดันโลหิตแขนข้างนี้
ควรปรึกษาแพทย์ ในกรณีนี้
- ไม่รู้สึกถึงแรงสั่นเหนือบริเวณรอยต่อหลอดเลือด เพราะเป็นอาการเตือนของการตีบตันของหลอดเลือด
- ผิวหนังเหนือบริเวณรอยต่อหลอดเลือดบวมแดงร้อน ซึ่งสงสัยภาวะการติดเชื้อ
- เลือดออกมากจากรูเข็มหลังเสร็จการล้างไต
รูปวาดแสดงการสอดหลอดสวนเข้าไปตรงรอยตีบ (สีเหลือง) เมื่อถึงจุดตีบแคบก็ทำให้ลูกโป่ง (สีฟ้า)ขยายตัวดันรอยตีบแคบให้กว้างขึ้น |
ด้านล่างเป็นภาพเอกซเรย์หลอดเลือดแสดงก่อนและหลังรักษารอยตีบ
รอยตีบของหลอดเลือดดำ (หัวลูกศร)ก่อนการรักษาด้วยลูกโป่งขยาย |
ภาพเอกซเรย์ของหลอดเลือดดำหลังจากขยายรอยตีบ ทำให้เลือดไหลเวียนพุ่งแรงดีขึ้นและกลับมาใช้กับเครื่องไดเทียมได้อีก |
ในบางกรณีที่ลิ่มเลือด (เลือดแข็งตัวเกาะแน่นอยู่ภายในหลอดเลือด)มีผลให้แรงดันเลือดน้อยลง แพทย์จำเป็นต้องใส่หลอดสวนและให้ยาละลายลิ่มเลือดผ่านหลอดสวนจนเริ่มเห็นรอยเปิดแล้วจึงจะขยายหลอดเลือดด้วยลูกโป่งอีกทีหนึ่ง
สำหรับหลอดสวนในหลอดเลือดดำใหญ่ (Cenral venous catheter) ที่อุดตันจากลิ่มเลือดจะรักษาด้วยการเปลี่ยนหลอดสวนเส้นใหม่โดยพยายามใส่ในเส้นทางเดิมก่อน
เหล่านี้คือความรู้เบื้องต้น ของการฟอกเลือดกรณีไตวายเรื้อรัง
หากมีคำถามใดๆ คุณสามารถสอบถามในช่องคอมเมนต์ด้านล่างได้
เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสอ่านบทความใหม่ๆของ หมอ ขอแนะนำให้คุณกด like หรือแนะนำ ใน facebook page ของหมอนะครับ
กลับ หน้า สารบัญบทความ
Link พัฒนาตนเอง
1. แนวทางพัฒนาการคิด
2. กด like ให้drrattawach fanpage
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น