ปวดเข่า |
ปวดเข่า
จากข้อเข่าเสื่อม (Knee osteoarthritis) เมื่อใดจะรักษาด้วยการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น
(Platelet rich plasma injection)
คุณมีญาติที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมหรือไม่?
ความทุกข์ทรมานจากการปวดเข่าสำหรับผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมช่างเรื้อรังยาวนานเสียเหลือเกิน
ไม่ว่าจะปวดหรือการใช้ชีวิตไม่ปกติสุข แถมยังรำคาญสภาพตัวเองอีก
ผู้ป่วยแต่ละคนต่างพยายามเสาะแสวงหายาที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดจากเข่าเสื่อม
(Knee osteoarthritis) เพราะหลายๆคนกลัวการผ่าตัดรักษา
อย่างไรก็ขอให้เป็นทางเลือกสุดท้าย หากไม่มีวิธีอื่นๆที่บรรเทาได้แล้ว
การรับประทานยา
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นง่ายๆด้วยการซื้อยารับประทานเอง
ซึ่งมักจะได้รับยาแก้อักเสบของระบบกล้ามเนื้อ (Nonsteroid
anti-inflammatory drugs-NSAID) ซึ่งก็บรรเทาลงไปได้บ้าง
เพราะยาไปลดการอักเสบ เมื่อรับประทานก็บรรเทาอาการ
แต่หยุดรับประทานอาการก็กำเริบขึ้นอีก เราหวังผลที่ข้อเข่า
แต่ตัวยานี้เข้าสู่ทั่วร่างกาย ซึ่งต้องระมัดระวังผลกระทบต่อหัวใจและหลอดเลือด ผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหาร และไต
ดังนั้นการรักษาด้วยยารับประทานจึงไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว
ดังนั้นการรักษาด้วยยารับประทานจึงไม่ใช่ทางแก้ไขปัญหาในระยะยาว
ถัดมาร้านยา
ก็แนะนำอาหารเสริมบำรุงกระดูกอ่อนได้แก่ กลูโคซามีน (Glucosamine) สารนี้พบว่าช่วยมีการสร้างกระดูกอ่อนเพิ่มขึ้น
แต่บางรายรับประทานแล้วรู้สึกดีขึ้น บางรายงานก็ว่าไม่ได้ช่วยอะไร ราคาอาหารเสริมนี้ก็ไม่เบา
แถมยังต้องกินต่อเนื่องตลอดไป แต่ก็กินนานกว่าสองปี ก็ยังไม่มีข้อมูลรองรับว่าใช้ต่อเนื่องได้นานกว่าสองปีหรือไม่
หากอาการยังไม่บรรเทา
หลายคนก็เริ่มไปพบแพทย์ แพทย์แนะนำให้ลดน้ำหนักตัว, บริหารข้อเข่า
พร้อมทั้งให้ยารับประทานเหมือนที่ร้านขายยาให้มากินเป็นบางครั้ง
การฉีดยาเข้าข้อเข่า
(intraarticular injection)
หากการรักษาเบื้องต้นของคุณหมอยังเอาไม่อยู่
อีกหนึ่งในวิธีการรักษาเพื่อบรรเทาอาการปวดของข้อเข่าเสื่อมคือ
การฉีดยาเข้าไปในข้อ (intraarticular injection) เพื่อหวังผลให้ลดอาการปวดข้อเข่า โดยไม่ต้องได้รับยาทั่วทั้งร่างกาย
แพทย์พยายามค้นคว้าทดลองหาสารที่ฉีดเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น สเตียรอยด์แก้อักเสบ,
กลุ่มยากดภูมิต้านทาน (infliximab),
กรดไฮยาลูโรนิค (Hyaluronic acid),
โบท็อกซ์ (botulinum neurotoxin A) จนกระทั่งมาถึง
เกร็ดเลือดเข้มข้นของผู้ป่วยเอง (Homologous platelet rich plasma, PRP) จากผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์มากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเห็นแนวโน้มว่า
การฉีดเกร็ดเลือดเข้มข้นของผู้ป่วยเองเข้าไปในข้อเข่าให้ผลการรักษาในด้านลดอาการเจ็บปวดและปรับปรุงการทำงานของข้อเข่าได้ดีและยาวนานกว่าการฉีดด้วยสารชนิดอื่นๆ
ยกตัวอย่างเช่น
การศึกษาโดย Meheux และคณะ
พบว่าการฉีดเกร็ดเลือดเข้มข้นเข้าข้อเข่าเสื่อมช่วยให้อาการผู้ป่วยดีขึ้นนานถึง 12
เดือนเลยทีเดียว (ที่มา
https://emedicine.medscape.com/article/1997643-overview#a1)
ทำไมฉีดเกร็ดเลือดเข้มข้นทำให้อาการจากข้อเข่าเสื่อมดีขึ้นได้?
ยังไม่ทราบกลไกที่แท้จริง
มีเพียงหลักฐานประกอบว่าสารกระตุ้นการเจริญเติบโต (growth factors) ในเกร็ดเลือดเข้มข้นไปเพิ่มการสังเคราะห์สารโปรตีโอไกลแคน
(Proteoglycan) และคอลลาเจน (collagen)
ในเซลล์กระดูกอ่อน
(Chondrocytes)
ข้อห้ามในการฉีดเกร็ดเลือดเข้มข้นเข้าข้อเข่า
ห้ามฉีดในขณะที่ผู้ป่วยมีภาวะเกร็ดเลือดต่ำหรือเกร็ดเลือดทำงานผิดปกติ,
ติดเชื้อในกระแสเลือด, ช็อค,
ภาวะติดเชื้อในข้อเข่าหรือเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียงจุดที่จะฉีดยา
วิธีการฉีดเกร็ดเลือดเข้มข้นทำอย่างไร?
ขั้นตอนการเตรียมเกล็ดเลือดเข้มข้นประกอบด้วยขั้นตอนหลัก
4 ขั้น ดังภาพ
สี่ขั้นตอนหลักในการฉีดเกร็ดเลือดเข้มข้นรักษาข้อเข่าเสื่อม |
หนึ่ง การเจาะเลือดออกจากแขนของผู้ป่วย
สอง เลือดจะถูกนำไปปั่นแยกชั้น
สาม ชั้นของเกร็ดเลือดจะถูกเก็บออกมา
สี่ ฉีดเกร็ดเลือดเข้นข้นเข้าสู่ข้อเข่า
ต้องทำบ่อยแค่ไหน?
โดยทั่วไปแพทย์จะฉีดเกร็ดเลือดสามครั้งห่างกันครั้งละ
7-10 วัน
ค่ารักษาเท่าไร?
ราคาฉีดต่อครั้งมีตั้งแต่
4,000 ถึง 20,000
บาท ราคาสูงไม่จำเป็นต้องดีหรือราคาต่ำคุณภาพดีก็มี
ดังนั้นขอให้สืบสถานบริการจากผู้ที่ได้ทดลองรักษาแล้วจะดีกว่า
เพราะจากรายงานวิจัยหลายๆงาน
ยังไม่ได้พบความแตกต่างของผลการรักษาจากวิธีที่ซับซ้อนจนนำมาสู่ราคาที่แสนแพงกับวิธีที่ง่ายๆซึ่งราคาจะถูกกว่า
หากคุณผู้สนใจการรักษาด้วยวิธีนี้
สอบถามได้ที่นี่
Link แผนที่: แผนที่ "บีอาร์เอกซ์จี โพลีคลินิก" คุณจะไม่พลาดข้อมูลสุขภาพที่ดีต่อตัวคุณ
เพียงกดติดตาม https://www.facebook.com/brxggroup/